รังสียูวี กับความอันตรายต่อผิว
ในอดีตรังสียูวีที่ถูกส่งมาจากพระอาทิตย์ถูกกรองด้วยชั้นบรรยากาศโลกที่มีความสมบูรณ์ มีธรรมชาติ ต้นไม้ที่สามารถเป็นร่มเงา ทำให้ในอดีตมนุษย์ไม่ได้รับรังสียูวีในปริมาณมาก เมื่อเทียบกับ ณ ปัจจุบัน ซึ่งด้วยสิ่งแวดล้อม lifestyle และเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้การได้รับรังสียูวีไม่เพียงแค่มาจากแสงแดด แต่ยังถูกปล่อยมาจากหลอดไฟ ทีวี หน้าจอโทรศัพท์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
รังสียูวี แบ่งออกได้เป็น UVA, UVB และ UVC แต่เนื่องจาก รังสี UVC สามารถถูกดูดกลืนด้วยชั้นโอโซนทำให้ไม่ก่ออันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก แต่ยังคงได้รับ UVA และ UVB เนื่องจากไม่สามารถถูกกรองได้ด้วยชั้นบรรยากาศ 100% โดยปัจจุบันนอกจากรังสียูวีที่มีต้นกำเนิดจากแสงอาทิตย์ ยังพบว่ามีรังสีที่ถูกปลดปล่อยจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น หลอดไฟ จอคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ ที่มีความยาวคลื่น 400-490 nm หรือ แสงสีฟ้า ซึ่งพบว่าเมื่อผิวสัมผัสกับรังสียูวีส่งผลให้เกิดการสร้างสารอนุมูลอิสระ เกิดปัญหาผิวต่างๆ เช่น การไหม้ของผิว ทำให้สีผิวเข้มขึ้น หมองคล้ำ และการเกิดริ้วรอย (3)
อันตรายของผิวจากการได้รับรังสียูวี (1)
- เมื่อ UVA กระทบกับผิวหนังชั้นนอกจะเกิดการกระตุ้นเซลล์ผิวชั้นนอก ให้ผลิตสารเพื่อเป็นเกราะป้องกันผิวจากรังสี ที่มีชื่อว่า เมลานิน (Melanin) ทำให้สีผิวหมองคล้ำ เกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ UVA สามารถส่องทะลุไปยังผิวในชั้นหนังแท้ เกิดการทำลายโครงสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ส่งผลให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นเป็น สาเหตุของริ้วรอย และความหย่อนคล้อย ก่อนวัย
- UVB เป็นรังสียูวีที่มีความรุนแรง และอันตรายมากกว่า UVA ทำให้เกิดการไหม้ของผิว สีผิวที่เข้มขึ้นโดยสามารถเห็นสีผิวที่เข้มขึ้นหลังจากการรับ UVB ประมาณ 3 วัน และใช้เวลานานหลายสัปดาห์ที่จะทำให้สีผิวกลับมาเช่นเดิม และหากได้รับ UVB ปริมาณสูงเซลล์ผิวหนังชั้นนอกจะเกิดการถูกทำลาย อักเสบ หลุดลอก สูญเสียความชุ่มชื้น อีกทั้งเซลล์ผิวหนังที่ถูกสร้างขึ้นใหม่จะมีความไวต่อรังสี และบอบบางกว่าเซลล์ผิวเดิม ทำให้การสัมผัสกับรังสียูวีอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังได้
ผู้ที่มีผิวหนังไวต่อรังสี เช่น เด็ก ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด การใช้เครื่องสำอางหรือเวชสำอางที่มีอนุพันธ์ของวิตามินเอ จะพบว่าแม้ได้รับรังสีในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ก่อให้เกิดผิวหนังแสบไหม้ได้ ดังนั้น จึงควรอ่านฉลาก ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตัวเรา
ประเทศไทย ถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีค่าความเข้มข้นของรังสียูวี (UV index) ระดับ สูง โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10 - 16 นาฬิกา โดยการได้รับรังสียูวี 20-30 นาที ทำให้เกิดการไหม้ของผิวหนัง และเกิดความหมองคล้ำหลังการสัมผัสรังสียูวีเป็นเวลา 30-60 นาที (2)
วิธีการปกป้องผิวจากรังสียูวี
-ครีมกันแดด
Physical sunscreen กลไกลสะท้อนรังสียูวี
Chemical sunscreen กลไกลดูดกลืนรังสียูวี
-อาหารเสริม
อาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอย
-การป้องกันและหลีกเลี่ยงจากรังสียูวี
หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดในช่วง 10-16 นาฬิกา
ใส่เสื้อปกปิดผิวกายจากแสงแดด ลดการเกิดการไหม้ของผิว
ใช้ร่ม หรือสวมหมวกป้องกันใบหน้าขณะออกแดด ลดการเกิดใบหน้าหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอย
วิธีการปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า
-จำกัดเวลาการใช้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
-หากิจกรรมอื่นๆ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
-ทาครีมกันแดด
-อาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระ
Reference
1. https://www.pobpad.com//รังสีอัลตราไวโอเลต
3. Can Light Emitted from Smartphone Screens and Taking Selfies Cause Premature Aging and Wrinkles?
หมายเหตุ : บริษัทสงวนสิทธิ์ในข้อมูลทั้งหมดที่ปรากฏในนี้ ห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ ทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่ต่อสาธารณชน ไม่ว่าด้วยประการใดๆ